รับประมูลของจากญี่ปุ่น อย่างมืออาชีพ

ตอน: ประมูลอย่างไรให้ชนะ

การ ประมูลของจากญี่ปุ่น ในยาฮูเจแปนไม่เหมือนกับการซื้อของทั่วๆไปตามเซเว่นหรือห้างสรรพสินค้า ที่เราจ่ายเงินตามราคาสินค้าที่ตั้งไว้ หรือถูกกว่านั้นถ้าผู้ขายลดราคาให้
(คงไม่มีใครอยากจ่ายแพงกว่าราคาที่ตั้งไว้หรอก) ผู้ขายสินค้าจะกำหนดราคาประมูลเริ่มต้น อาจจะเป็นราคาขั้นต่ำที่ผู้ขายยินดีที่จะขาย หรือจะเป็นราคาเริ่มต้นที่ถูกมากๆ (อย่างเช่น 1 เยน) เพื่อหวังให้สินค้าของตนเป็นจุดสนใจ สำหรับผู้ประมูลในกรณีนี้ ราคาสินค้าจะดีดตัวขึ้นไปเองตามราคาตลาดถ้ามีผู้ประมูลมาแข่งขันกันหลายคน แต่ถ้าเป็นช่วงที่ไม่มีคนมาประมูลพอดี คุณก็สามารถประมูลได้ในราคาที่ถูกมากๆ

การประมูลสินค้าจากญี่ปุ่น นั้นผู้ประมูลแต่ละคนจะตั้งราคาประมูลสูงสุดที่ตนเองสามารถประมูลได้สำหรับสินค้าชิ้นนั้นๆ อาจจะมีคนสนใจมาประมูลสินค้าชิ้นเดียวกับคุณหลายคน หรือมีแค่คุณคนเดียว เมื่อหมดเวลาประมูล ผู้ประมูลคนที่ให้ราคาสูงสุดก็จะชนะประมูลไป

ฮืม... ฟังคอนเซปต์ดูแล้วน่าจะง่ายๆ แต่จะประมูลอย่างไร ให้การ ประมูลของจากญี่ปุ่น ให้ชนะด้วยราคาที่ถูกที่สุดล่ะ

ช่วงเวลาที่สามารถประมูลได้สำหรับสินค้าแต่ละชิ้นส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงประมาณ 5-7วัน ถ้าใส่ราคาสูงๆและประมูลไปตั้งแต่แรกๆ ราคาก็จะดีดตัวขึ้นไป ทั้งที่ยังเหลือเวลาประมูลอีกหลายวัน พอผู้ประมูลคนอื่นมาดู แล้วพบว่าราคาสูงขึ้น ก็กลายเป็นเราเพิ่มราคาประมูลไปอีก (พอดีอยากได้สินค้านี้และอยากเป็นผู้ชนะประมูลที่ให้ราคาต่ำ) ราคาสินค้าก็สูงขึ้นๆ พอจะหมดเวลาประมูล ผู้ประมูลก็ให้ราคาประมูลสูงขึ้นอีก เนื่องจากราคาสินค้าในช่วงแรกแพงอยู่แล้วก็ยิ่งแพงเข้าไปใหญ่ ถ้าสู้ราคาไม่ไหวก็ต้องยอมแพ้ไป

เทคนิคการประมูลของญี่ปุ่น แต่ละชิ้นก็ไม่เหมือนกัน แบ่งแยกการประมูลของจากญี่ปุ่นได้ 2 ประเภท
1. สำหรับสินค้ายอดนิยม
2. สำหรับสินค้าทั่วไป จะรู้ว่าเป็นสินค้าไหนประเภทใด ก็ดูได้จาก "จำนวนเสนอราคาประมูล" ในหน้ารายละเอียดสินค้า ถ้าเกิน 5 และเหลือเวลาประมูลเป็นหลายวัน ก็ประมาณได้ว่าเป็นสินค้าที่มีคนมาประมูลหลายคน ถ้ายังเป็น 0 หรือ 1 อยู่ ก็ประมาณได้ว่าเป็นสินค้าทั่วไป

เทคนิคการ ประมูลสินค้าจากญี่ปุ่น ยอดนิยมนั้นคือ
1. Sniper Bid คือตรวจสอบเวลาหมดประมูลก่อนว่าเหลือเท่าไหร่ ถ้าเป็นหลายวัน ก็ยังไม่ต้องประมูล เก็บสินค้าไว้ใน "สินค้าติดตาม" ก่อนแล้วคอยดูความเคลื่อนไหวของราคาไว้ พอเหลือเวลาสักหนึ่งชั่วโมง คุณก็อาจจะหยั่งความนิยมของสินค้านั้นๆได้โดยลองประมูลด้วยราคาที่ต่ำสุด หลังจากที่ลงราคาประมูลไปแล้วมีคนมาให้ราคาตัดหน้าทันที ก็รู้ได้เลยว่ามีผู้แข่งแล้ว
อ้าว.. ทำอย่างไรดีล่ะครับ ใจเย็นๆและรอประมูลอีกทีตอนเหลือเวลาอยู่ประมาณ 3 นาทีสุดท้าย หรือเรียกว่ายิงใน0-5นาทีสุดท้าย (อย่าประมูลใกล้เวลาหมดประมูลมากกว่านี้นะครับ มันข้อนค่างเสี่ยง เน็ตอาจจะช้า คอมอาจจะแฮ้ง อาจไฟดับได้ อีกอย่างเซอฟเวอร์ประมูลก็คนเยอะอาจจะโหลดได้ช้าและไม่ทันเวลาได้)
2. Instant Bid คือว่าชอบสินค้าชิ้นไหนก็เฝ้าใส่ราคาไล่กันไปเรื่อยๆจนกว่าจะจบ หรือหมดเวลานั้นเอง
3. Buy it Now คือประมาณว่าซื้อราคาในราคาที่เขาตั้ง จบๆ ไม่ต้องไปสู้กับใครได้แน่ๆ

และที่สำคัญคือ สินค้าทุกตัวจะมีอ็อปชั่นที่ว่า ถ้ามีคนมาลงราคาประมูลในช่วง 1-5 นาทีสุดท้าย เวลาประมูลจะยืดออกไป 5นาทีอัตโนมัติแบบนี้เสมอๆ เพื่อให้โอกาสเริ่มประมูลใหม่ ในทุกๆครั้งที่มีคนมาลงราคาประมูลในช่วง 5 นาทีสุดท้าย ถ้าเวลาถูกยืดออกไป ก็รอ และอย่าลืมคือต้องเช็คเวลาหมดประมูลเสมอครับ เวลาหมดประมูลของสินค้าส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 3-5ทุ่มเวลาที่ญี่ปุ่น (ซึ่งเป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่กลับมาจากทำงานและทานข้าวเรียบร้อยแล้ว) หรือ 2-3 ทุ่มเวลาบ้านเรา

ส่วนเทคนิคการประมูลสินค้าทั่วไปนั้นไม่มีอะไรมาก ถ้าคุณมีเวลานั่งประมูลก่อนจะหมดเวลา ก็ใส่ราคาประมูลที่ 5 นาทีสุดท้าย ถ้าไม่มีเวลาประมูล
ก็ใส่ราคาประมูลที่คุณคิดว่าสู้ได้ แล้วมาดูผลทีหลัง แต่ทางที่ดีควรมีเวลานั่งเฝ้าสินค้าของตนเองตอนหมดเวลาจะดีที่สุดนะครับเขียนมาตั้งยาว
สรุปตามข้างล่างนี้ครับ

• ควรรู้ถึงเวลาหมดประมูลของๆที่ประมูลอยู่
• ประมูลในช่วง 5 นาทีสุดท้าย หรือใส่ประมูลลองเชิงด้วยราคาต่ำสุด
• ไม่ควรประมูลในช่วงนาทีสุดท้าย**
• ถ้าสู้ไม่ไหวและมีทางเลือกอื่น ก็ยอมแพ้แล้วไปดูสินค้าประมูลใหม่

อนึ่ง การประมูลแต่ละชิ้น ควรจะอ่านรายละเอียดอย่างรอบคอบ ย้ำๆ** (ถึงจะอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องก็ตาม) ถ้าดูรายละเอียดแล้วไม่ค่อยมั่นใจก็ตัดใจและลองหาสินค้าใหม่ ตรวจสอบว่าจะต้องจ่ายอะไรบ้างอย่างรอบคอบ ส่วนใหญ่จะมีแค่ค่าสินค้าและค่าขนส่งภายในประเทศ บางกรณีที่ผู้ขายไม่หวังดีก็อาจจะเก็บค่าขนส่งแพงๆ หรือต้องจ่ายค่าอะไรๆเพิ่ม ดูดีๆนะครับ ถ้าประมูลของจากญี่ปุ่น และต้องการมีที่ปรึกษาดีๆ
ผมยินดีช่วยเสมอครับติดต่อมาครับ